ติดป้ายบริษัท ป้ายโฆษณา ต้องเสียภาษีหรือไม่

การติดป้ายบริษัท ป้ายโฆษณา ไม่ได้จบแค่ “ค่าทำป้าย” นะคะ แต่ยังมีเรื่อง ภาษีป้าย กับ เอกสารที่ต้องยื่นต่อท้องถิ่น ที่เจ้าของกิจการต้องรู้ไว้ จะได้ไม่โดนเบี้ยปรับภายหลัง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเทศบาล/อบต. ต่างจังหวัดที่เริ่มเข้มเรื่องนี้มากขึ้นแล้วในปี 2568

เวลาเราติดป้ายหน้าบริษัท ป้ายร้าน หรือป้ายโฆษณาที่มองเห็นจากภายนอกอาคาร ส่วนใหญ่แล้ว ต้องเสีย “ภาษีป้าย” ให้กับ อบต./เทศบาล/กทม. ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เพราะถือว่าเราใช้ “พื้นที่สาธารณะในการโฆษณา/แสดงชื่อกิจการ” นั่นเอง

ภาษีป้ายคืออะไร

ภาษีป้าย คือภาษีท้องถิ่นที่เก็บจากป้ายที่มี ชื่อร้าน ชื่อบริษัท โลโก้ เครื่องหมายการค้า หรือข้อความโฆษณา ที่คนข้างนอกมองเห็นได้

เช่น

  • ป้ายหน้าร้าน
  • ป้ายกล่องไฟ
  • ป้ายไวนิล
  • ป้ายบนอาคาร
  • ป้ายโครงการก่อสร้าง

รวมถึงป้ายที่ติดบนรั้วหรือหน้าสำนักงานก็ต้องเสียเช่นกัน

ป้ายแบบไหนที่ต้องเสีย

  • ป้ายที่มี อักษรไทย แสดงชื่อ/โลโก้กิจการ
  • ป้ายที่มี ไทย + อังกฤษ/ตัวเลข/โลโก้
  • ป้ายที่เป็น ภาษาอังกฤษล้วน / ไม่มีไทยเลย
  • ป้ายไฟ ป้ายกล่องไฟ ป้ายไวนิล ที่ติดถาวร

(ป้ายภายในออฟฟิศที่คนภายนอกมองไม่เห็น หรือป้ายเล็กที่อยู่ข้างในบางกรณี อาจไม่เข้าเกณฑ์ แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่พื้นที่ดูอีกที)

ต้องยื่นภาษีป้ายเมื่อไหร่

  • ถ้า ติดป้ายใหม่ – ต้องยื่นแบบภาษีป้าย (แบบ ภ.ป.1) ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ติดตั้ง
  • ถ้าเป็น ป้ายเดิม – ยื่นและจ่ายภาษีได้ช่วง 1 ม.ค. – 31 มี.ค. ของทุกปี

ถ้าลืม/ยื่นช้า จะมีเบี้ยปรับ-เงินเพิ่มได้เลยค่ะ

หลักการคิดภาษีของเทศบาล/กทม.

  • วัดขนาดป้าย กว้าง x ยาว (หน่วยเซนติเมตร)
  • เอาพื้นที่ที่ได้ ÷ 500 → จะได้ “หน่วยภาษี”
  • เอา “หน่วยภาษี” × “อัตราภาษีตามประเภทป้าย” – ได้ภาษีที่ต้องจ่าย
  • ถ้าคำนวณออกมาต่ำกว่า 200 บาท ต้องจ่ายขั้นต่ำ 200 บาท/ป้าย

แล้ว “ประเภทป้าย” เอามาคิดราคาหรือไม่?

  • ป้ายมีอักษรไทยล้วน – อัตราต่ำสุด
  • ป้ายมีไทย + อังกฤษ + ตัวเลข/โลโก้ – อัตรากลาง (เจอบ่อยสุด เพราะทุกคนใส่ชื่ออังกฤษ)
  • เป้ายอังกฤษล้วน หรือไทยอยู่ล่างกว่าอังกฤษ – อัตราสูงสุด

เพราะฉนั้น… ถ้าหากลูกค้าจะออกแบบป้ายหน้าบริษัท แนะนำให้ใส่ ชื่อภาษาไทยไว้ด้านบน หรือเด่นกว่าอังกฤษ ภาษีจะเบากว่า

ป้ายไฟสุดพรีเมียม AIS

นอกจากภาษีป้าย จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียอะไรอีกหรือไม่

  • ค่าทำป้าย/ค่าติดตั้ง – จ่ายให้ร้านทำป้าย
  • ค่าขออนุญาตติดตั้งป้าย (บางพื้นที่/บางอาคาร/คอนโดสำนักงานขอให้ยื่นก่อน)
  • ภาษีป้าย (รายปี) – จ่ายให้ท้องถิ่น

ถ้าป้ายคุณเป็น ป้ายขนาดใหญ่ริมทาง/ติดบนอาคารสูง/มีโครงสร้างยื่นออกถนน อาจต้องดูเรื่อง แบบก่อสร้าง/วิศวกร/ข้อกำหนดของ กทม. หรือเทศบาล เพิ่มเติม

หากไม่แจ้ง/ไม่จ่ายภาษี จะเกิดอะไรขึ้นไหม

หน่วยงานท้องถิ่นมีสิทธิ์เรียกเก็บย้อนหลัง + เบี้ยปรับ + เงินเพิ่ม เพราะระบบตอนนี้เช็กจากการสำรวจพื้นที่และเอกสารออนไลน์เยอะขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ.

สรุป

สนใจทำป้ายบริษัท ป้ายร้านค้า
สามารถติดต่อสอบถามเราเข้ามาก่อนได้เลยครับ

สนใจงานป้าย หรือบริการอื่นๆ ติดต่อเรา

สนใจงานป้าย หรือบริการอื่นๆ ติดต่อเรา